'โรงเล็ก' 'โรงใหญ่'
SR24, SD30, SD40, SD50
ของเหล็กเส้น ข้ออ้อยก่อสร้าง คืออะไร ?
เหล็กก่อสร้าง (Rebar, Reinforcing bar) ได้แก่ เหล็กเส้น เหล็กข้ออ้อย
-
เหล็กก่อสร้างโรงเล็ก (เหล็กเบา เหล็กไม่เต็ม) คือเหล็กที่น้ำหนักน้อยกว่ามาตรฐานอุตสาหกรรม ผิดกฎหมาย! ถ้านำไปใช้อาจเป็นอันตรายต่อทรัพย์สินและชีวิต ... “ร้านเหล็กมาบุญยงค์” ไม่จำหน่าย
-
เหล็กก่อสร้างโรงใหญ่ (เหล็กเต็ม) คือเหล็กที่น้ำหนักตรงตามมาตรฐานอุตสาหกรรม มีเอกสารมอก.รับรอง มีตีตรากำกับข้างเส้นเหล็ก คุณภาพสูง นำไปใช้งานได้ ซึ่งแบ่งได้หลายสเปคได้แก่ SR24, SD30, SD40, SD50
วิธีตรวจสอบว่าเป็นเหล็กเต็มหรือไม่
-
ตาดูมือสัมผัส เหล็กเต็มจะขนาดสม่ำเสมอ ไม่หยิกหยอยไม่ขึ้นสนิม มักจะตีตรายี่ห้อเป็นอักษรนูนอยู่ข้างเหล็ก
-
มีเอกสารรับรอง ใบCertificate ใบมอก. ระบุยี่ห้อ ที่มา และโรงงานผลิตที่น่าเชื่อถือ
-
ชั่งน้ำหนักเหล็กทั้งเส้นว่าตรงตามมาตรฐานหรือไม่ โดยดูสเปคน้ำหนักเหล็กก่อสร้าง ที่นี่
-
ตัวอักษรแสดงสเปคของเหล็กก่อสร้างโรงใหญ่ ได้แก่ SR24 และ SD30-50 สื่อถึงความสามารถของเหล็กในการรับ “แรงดึง” โดยยังไม่ถึง “จุดคราก” (เหล็กถูกดึงจนเสียสภาพ) ซึ่งประเด็นเรื่องสเปค ผมจะขออธิบายเชิงวิชาการโดยคร่าวดังนี้
...........................................................................................
ลูกค้า “ร้านเหล็กมาบุญยงค์” หลายๆท่าน มักมีข้อสงสัยเกี่ยวกับสเปคโรงใหญ่ของ ‘เหล็กเส้นก่อสร้าง’ และ ‘เหล็กข้ออ้อยก่อสร้าง’ ว่ามีอะไรบ้าง แล้วแตกต่างกันอย่างไร ซึ่งมาตรฐานทั่วไปประกอบด้วย
-
เหล็กเส้น SR24 ชื่อเต็มคือ Standard round bar steel 2400 กิโลกรัมต่อตารางเซนติเมตร (Kilogram per Square Centimeters หรือ KSC)
-
เหล็กข้ออ้อย SD30, SD40, SD50 หรือชื่อเต็มคือ Standard Deformed bar steel 3000 ,4000 และ 5000 กิโลกรัมต่อตารางเซนติเมตร (Kilogram per Square Centimeters หรือ KSC) ตามลำดับ
ผมขออธิบายการทดสอบมาตรฐานผ่านภาพประกอบง่ายๆ โดยยกตัวอย่างการทดสอบของเหล็กเส้นกลมมาตรฐาน สเปค SR24
ภาพที่1: อธิบายขั้นพื้นฐานเบื้องต้นก่อนครับว่าหน้าที่หลักของเหล็กก่อสร้างเส้นและข้ออ้อย คือ การรับแรงดึง (ตรงข้ามกับคอนกรีตที่รับแรงอัด) ฉะนั้น การทดสอบเหล็กตามหลักสากล คือการดึงเหล็กเป็นหลัก ซึ่งจะค่อยๆเพิ่มกำลังของแรงดึงทั้ง 2 ฝั่งไปเรื่อยอย่างช้า ๆ
ภาพที่2: คุณสมบัติที่น่าสนใจอย่างหนึ่งของเหล็กคือ เมื่อมีการออกแรงดึงน้อยๆ เหล็กจะออกแรงต้านอย่างพอดีกับแรงดึง หากว่ามีการปลดปล่อยแรงดึงนั้น เหล็กจะทำการการหดตัวลง จากนั้นจึงยืดตัวออกเป็นลักษณะของสปริง ในทางเทคนิคจะเรียกสภาวะนี้ว่า สภาวะสปริง
ภาพที่3: ทั้งนี้ หากว่ามีการดึงเหล็กเส้นต่อเนื่องเรื่อยๆ จนเหล็กเส้นได้รับแรงดึงตามที่มาตรฐานกำหนด คือ 2400 กิโลกรัมต่อตารางเซนติเมตร (KSC) เหล็กจะมีสภาวะล้า นั้นคือหากมีการออกแรงดึงมากกว่า 2400 KSC เหล็กจะไม่ออกแรงต้านกลับ ณ จุดนี้ในทางเทคนิคเรียกว่า จุดคราก
ภาพที่4: สำหรับการออกแรงดึงที่มากกว่าจุดครากของเหล็กนั้นจะยังไม่ขาดออกจากกันโดยทันที สามารถออกแรงดึงเพิ่มขึ้นได้อยู่ ทว่าเหล็กเส้นจะมีแรงต้านเหลืออยู่ไม่มากหรือไม่มีแรงต้านเหลืออยู่อีกเลย หากปลดปล่อยแรงดึงเหล็กไม่สามารถหดกลับมาเป็นรูปแบบเดิมได้ สภาวะนี้ทางเทคนิคเรียกว่า สภาวะพลาสติก เหล็กเส้นที่อยู่ในสภาวะนี้เป็นอันตรายต่อโครงสร้างอาคารเป็นอย่างมาก
ภาพที่5: สุดท้ายเมื่อแรงดึงมีกำลัง 3900 KSC (ประมาณ 95% ของการทดสอบเหล็กเส้น SR24) เหล็กเส้นจะมีสภาวะขาดออกจากกันในที่สุด และไม่สามารถใช้งานได้อีก นอกจากการนำเศษเหล็กนี้ไปหลอมขึ้นรูปใหม่ ณ จุดแรงดึง 3900 KSC นี้ทางเทคนิคเรียกว่า จุดประลัย
“ร้านเหล็กมาบุญยงค์” ปรารถนาให้ลูกค้าทุกท่านมีความสุขกับบ้านพักอาศัย ให้ปลอดภัย หายห่วงและไร้กังวล โครงสร้างของบ้านพักอาศัยจึงจัดว่าสำคัญที่สุด หากว่าเหล็กก่อสร้างมีมาตรฐานที่ไม่แน่นอนย่อมมีผลกระทบไม่ใช่แค่กับตัวเหล็กเส้นเอง แต่ผลกระทบจะเกิดกับบริเวณของคอนกรีตที่มีหน้าที่ในการรับแรงอัดด้วย ทำให้ก่อการฟ้องร้องหรือเรียกร้องค่าเสียหายต่อผู้รับเหมาที่ไม่ทราบว่าแท้จริงแล้วนั้น เหตุเกิดจากวัสดุก่อสร้างที่ไม่ได้คุณภาพ
เพราะงานก่อสร้างบ้านเป็นงานที่ต้องอาศัยความประณีต อดทน ซื่อตรง และจริงใจจากร้านค้าวัสดุก่อสร้างเป็นอย่างมาก ประสบการณ์กว่า 30ปีของ “ร้านเหล็กมาบุญยงค์” ทำให้เราเข้าใจความต้องการของลูกค้าทุกท่านเป็นอย่างดี และยินดีนำเสนอเฉพาะเหล็กที่มีคุณภาพเพื่อคุณลูกค้าครับ
หากคุณลูกค้ามีข้อสงสัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับสเปค ขนาด การใช้งาน สินค้าประเภทแผ่นโลหะหรือสินค้าอื่นๆ สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ Line @maboonyong หรือเบอร์ 02-090-2587 ‘ร้านเหล็กมาบุญยงค์’ ยินดีให้คำแนะนำข้อมูลครับ
นที พนมโชคไพศาล
(รองประธาน บริษัท มาบุญยงค์กรุ๊ป จำกัด)
...........................................................................................